เพเนทรอนทำงานอย่างไร

ผลึกคริสตัลไลน์ของเพเนทรอน
Scanning Electron Microscope (SEM)
Magnification 5,000x


คุณสมบัติการซ่อมแซมตัวเองของคอนกรีต
การทาบนพื้นผิวคอนกรีต
การผสมในคอนกรีต
การซ่อมรอยร้าวและพรุนโพรง

1. เมื่อคอนกรีตทั่วไปที่มี
การสัมผัสกับน้ำ

2. ทาเพเนทรอนที่บริเวณด้านใดด้านหนึ่ง

3. ปฏิกิริยาเคมีที่สร้างผลึกคริสตัลจะสามารถสกัดกั้นการแทรกซึมผ่านของน้ำได้




1. เติมผลิตภัณฑ์
เพเนทรอน แอดมิกซ์
ในระหว่างการผสมคอนกรีต
2. คอนกรีตดังกล่าว
จะได้รับการปกป้องโดย
เพเนทรอนอย่างสมบูรณ์
3. ด้วยเทคโนโลยีของ
คริสตัลไลน์ จะเริ่มทำปฏิกิริยากับน้ำและความชื้น
4. โครงสร้างคอนกรีตจะได้รับการปกป้องจากการแทรกซึมผ่านของน้ำได้




1. ทำการเจาะสกัดรอยร้าวที่มีอยู่ในเนื้อคอนกรีต
2. อุดเสริมหยุดน้ำทันทีด้วยเพเนปลั๊ก
3. อุดเสริมรอยร้าวและรอยสกัดด้วยเพเนกรีต มอร์ตาร์
4. ปฏิกิริยาเคมีที่สร้างผลึกคริสตัลจะสามารถสกัดกั้นการแทรกซึมผ่านของน้ำได้


การซ่อมแซมตัวเอง
SELF - HEALING

อนุภาคเล็กๆสู่การแก้ไขปัญหาระดับใหญ่
โดยทั่วไป น้ำและสารปนเปื้อนขนาดเล็ก จะแทรกซึมผ่านเข้าไปในเนื้อคอนกรีตผ่านช่องว่างและรูพรุนโพรงภายใต้แรงดัน ดังนั้น การรับมือกับปัญหาดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องอาศัยแนวทางการป้องกันในระดับโมเลกุล เทคโนโลยีกันซึมคริสตัลไลน์ของเพเนทรอน ได้รับการพัฒนาปรับปรุงมาอย่างพิถีพิถัน โดยใช้หลักการทางวิศวกรรมในระดับไมโคร ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นประสบความสำเร็จและน่าประทับใจ
หลักการทางวิทยาศาสตร์
เบื้องหลังความสำเร็จของเพเนทรอน
ซีเมนต์ซ่อมแซมตัวเองไ ด้
คริสตัลไลน์


1. ปฏิกิริยาเคมีของเพเนทรอน จะแทรกซึมผ่านโพรง
รอยร้าวขนาดเล็กในเนื้อคอนกรีตผ่านกระบวนการ
แพร่โมเลกุลของเหลว (ออสโมซิส), การเคลื่อนที่ของอนุภาคแบบบราวน์ และปฏิกิริยาอนุภาคแห้ง

2. องค์ประกอบทางเคมีของเพเนทรอน จะทำปฏิกิริยากับสารเคมีในคอนกรีต เพื่อสร้างผลึกคริสตัลที่ไม่ละลายน้ำขึ้นมาเติมเต็มรอยร้าว พรุนโพรง ที่มีขนาดใหญ่ถึง 500 ไมครอน (0.5 มม.)

3. โมเลกุลของน้ำและสารเคมีอันตราย จะไม่สามารถแทรกซึมผ่านเข้าไปในเนื้อคอนกรีตได้อีกต่อไป
แต่อย่างไรก็ตามจะยังคงมีอากาศลอดผ่านได้
ตามปกติ เพื่อให้คอนกรีตยังคงหายใจได้

4. เมื่อความชื้นในคอนกรีตหมดลง ปฏิกิริยาเคมีจะสงบลงชั่วคราว แต่ทันทีทันใดที่ความชื้นแทรกซึมผ่านเข้ามาอีก ปฏิริยาการสร้างผลึกคริสตัล จะกลับมาทำงานอีกครั้งโดยอัตโนมัติ